top of page

Genes สายพันธุ์

Human | มนุษย์

  • จำนวนของมนุษย์ปกติ และNPC รวมกันมี 70% ในโรงเรียนใช้ชีวิตปกติธรรมดาทั่วไปโดยที่มีพวกอมนุษย์ปะปนอยู่ด้วย และภายในเมืองก็มีเช่นกัน

 Hunter นักล่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ

  • เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไปเเต่มีความสามารถในการต่อสู้เเละมีความรู้เรื่องเหนือธรรมชาติอยู่พอสมควร

  • มีอาวุธไว้ล่าพวกเหนือธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น กระสุนไม้ หมุดไม้ คลื่นเสียงรบกวนมนุษย์หมาป่า กระสุนเงิน ธนู สมุนไพรต่างๆ ฯลฯ  ส่วนมากนักล่าจะเก็บอาวุธไว้บ้านหรือสถานที่พัก เอาออกมาได้เฉพาะตอนล่าเท่านั้น

  • อายุ 15 ปีขึ้นไป ถ้าเกิน 18 ปีแล้ว ให้โคเป็นพ่อหรือแม่หรือผู้ปกครองของนักเรียนแทน หรือเป็นบุคลากรในโรงเรียน หรือจะเป็นชาวเมือง บีคอน ฮิลส์ ก็ได้

  • อายุ 15-17 จะเป็นนักล่าฝึกหัด ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะเริ่มเข้าสู่การเป็นักล่าเต็มตัว

  • ถ้าเป็นอายุในเกณฑ์นักเรียนจะไม่อนุญาติให้พกอาวุธติดตัว

  • ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติได้ เเต่ห้ามถึงตายเด็ดขาดหากจำเป็นจริงๆให้ติดต่อเเม่งานก่อน

 

Vampire | แวมไพร์

     ถ้าพูดถึงเเวมไพร์ ทุกคนจะพูดถึงผีดูดเลือด ผีปีศาจที่หากินเเค่ตอนกลางคืน หลบซ่อนเเต่ในหลุมโรงศพตอนกลางวันมีรูปร่างลักษณะน่ากลัวใช่มั้ยล่ะ? ให้เราได้บอกคุณถึงเป็นความจริงกันเถอะ… จริงๆ แล้ว...

  • แวมไพร์สามารถเดินกลางแสงแดดได้ โดยใส่แหวนที่ได้รับมาจากแม่มด หรือถึงแม้จะไม่ได้ใส่ ก็สามารถเดินออกแดดได้แต่จะมีผลกระทบ (ดูได้จากจุดอ่อน)

  • มีวิธีการช่วยป้องกันแดดที่ได้ผลอีกวิธี แต่น้อยกว่าการใส่แหวน คือ สามารถพึ่งพาครีมกันแดดได้ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ได้ผลเหมือนกันทุกตน

  • แวมไพร์มีอายุเกิน 100 ปี เช่น อายุจริงๆ 180 ปีเเต่กลับมาเรียนไฮสคูลใหม่เป็นเกรด 12 อายุประมาณ 18/19 ปี

  • เเวมไพร์มีสามชนิดคือ เเวมไพร์ที่ดื่มเลือดมนุษย์/เเวมไพร์ดื่มเลือดสัตว์(เช่นกระต่าย,กระรอก,หนู และสัตว์เล็กชนิดอื่นๆ)/เเวมไพร์ดื่มเลือดเเวมไพร์ด้วยกันเอง เเวมไพร์ชนิดนี้จะมีผลกระทบต่อตัวเองคือ ดื่มเเล้วจะเห็นความทรงจำรับรู้ความเจ็บปวด ทำให้มึนเมาเเละลุ่มหลงซึ่งกันเเละกันเอง

สีตา

ดวงตาของแวมไพร์มีทั้งหมดด้วยกัน 2 สี ที่พบได้ส่วนใหญ่

  • สีน้ำตาลทองที่ออกไปทางทองมากกว่า

  • สีแดงสด

ซึ่งปกติแล้วดวงตาของพวกมังสวิรัติจะเป็นสีน้าตาลทอง ส่วนสีแดงนั้นจะเป็นพวกดื่มเลือดมนุษย์

เพิ่มเติม : ในส่วนนี้ตัวละครสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามความสะดวกเพื่อปกปิดตัวตนได้

ความสามารถ

  • แวมไพร์ที่ดื่มเลือดมนุษย์จะมีพลังมากกว่าพวกมังสวิรัติ

  • พลังในการสะกดจิต ถึงอย่างนั้นก็มีบางตนที่ได้รับพลังอื่นมา เช่น อ่านใจได้ หรืออาจไม่มีพลังใดๆเลย

  • แวมไพร์มีพลังกายเยอะ และมีความว่องไวพอๆกับมนุษย์หมาป่า

  • มีประสาทสัมผัสการรับกลิ่นที่ดีพอๆกับมนุษย์หมาป่าอีกเช่นกัน

  • แวมไพร์มีการมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่ามนุษย์ปกติ

  • ปกติแล้วเขี้ยวของแวมไพร์สามารถซ่อนเอาไว้ได้ตามความต้องการของแวมไพร์ตนนั้นๆ

  • สามารถรักษาแผลจากการโดนมนุษย์หมาป่ากัดได้จากการดื่มเลือดของพวกไฮบริด

  • เลือดแวมไพร์สามารถรักษาบาดแผลของมนุษย์ได้โดยการดื่ม แต่ถ้ามนุษย์คนนั้นดื่มเลือดของแวมไพร์มากไปจะทำให้เขา/เธอสามารถกลายเป็นแวมไพร์ได้

จุดอ่อน

  • ผลกระทบจากการโดนแดดแบบไม่ใส่แหวน คือผิวจะขาวซีดอย่างเห็นได้ชัดกว่าปกติ และเห็นเส้นเลือดแบบซากศพ ผิวหนังจะรู้สึกแสบร้อน และจะเริ่มไหม้จนควันขึ้นหากโดนแดดเป็นเวลานาน ร่างกายจะอ่อนแอ และอาจผิวแห้งเหมือนหนังศพไปในที่สุด

  • กระเทียม ส่วนมากมักจะไม่มีผลต่อพวกที่ใส่แหวนของแม่มด และมังสวิรัติ แต่สำหรับพวกที่ดื่มแต่เลือดมนุษย์แล้วบางครั้งอาจส่งผลทำให้อาเจียนอย่างหนักได้

  • แวมไพร์ไม่ถูกกับ ‘เวอร์เวน’ อย่างยิ่ง

  • การโดนมนุษย์หมาป่ากัดจะทำให้แผลเน่าเหวอะ

  • เเวมไพร์ไม่สามารถเข้าบ้านที่มีเจ้าของได้เพราะเหมือนมีกระจกล่องหนกั้นอยู่ นอกจากจะได้รับคำเชิญจากเจ้าของบ้านนั้นๆ แต่ถ้าบ้านไม่มีเจ้าของก็สามารถเข้าได้ปกติ

การฆ่าแวมไพร์

     แวมไพร์สามารถตายได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้ เช่น ตัดหัว แยกชิ้นส่วนและเผา เป็นวิธีการที่ได้ผลที่สุด การปักหมุดที่กลางอก หรือหัวใจนั้นสามารถฆ่าได้เพียงเฉพาะแวมไพร์ที่พึ่งเกิดใหม่ หากเป็นแวมไพร์ที่มีพลังมาก จะทำได้เพียงหยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราว สามารถฆ่าได้ต่อเมื่อแยกชิ้นส่วนแล้วนำไปเผา แวมไพร์ที่ถูกแดดเผาไหม้จนผิวแห้งเป็นซากศพนั้น บางตนอาจไม่ตายเพียงแค่ขยับไปไหนไม่ได้ หากได้รับเลือดจากสิ่งมีชีวิตใดๆก็ตามสามารถกลับมาเป็นปกติได้

เพิ่มเติม: ในส่วนการฆ่าแวมไพร์นั้นพวกนักล่าและพวกเหนือธรรมชาติสายพันธ์อื่นจะรู้ดี ยกเว้นมนุษย์ปกติธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเหนือธรรมชาติ

Werewolf | มนุษย์หมาป่า

ความสามารถ

  • อัลฟ่าที่เป็นฝาเเฝด สามารถรวมร่างกันเป็นร่างเเดียวได้ เเละตัวร่างก็จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เเละยังคงมีลักษณะเหมือนมนุษย์อยู่บ้าง (ไม่กลายร่างเต็มตัวเป็นหมาป่า)

  • Heightened Senses การได้กลิ่น หรือการได้ยินไกลกว่ามนุษย์ปกติ

  • Accelerated Healing การรักษา บาดแผลสมานตัวกันอย่างรวดเร็ว

  • Enhanced Agility การกระโดด วิ่ง หรือปีนได้เร็วกว่ามนุษย์

  • Enhanced Strength มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์หลายเท่า

  • Pain Transference สามารถดูดซับความเจ็บปวดออกมาจากมนุษย์ได้ ในบางครั้งสามารถรักษามนุษย์ได้ด้วย หรือพวกมนุษย์หมาป่าด้วยกันเอง

  • Memory Transference สามารถถ่ายโอนความทรงจำผ่านกรงเล็บได้โดยการจิกเล็บเข้าไปที่ต้นคอ ความสามารถนี้สามารถสร้างการติดต่อสื่อสารได้ เเละลบล้างความทรงจำในสมองได้ (เฉพาะอัลฟ่าเท่านั้นที่สามารถทำได้)

  • การเป็นมนุษย์หมาป่า สามารถรักษาบาดเเผลต่างๆได้เเล้วยังทำลายเซลส์โรคเรื้อรังเช่น โรคหอบหืด โรคลมชัก หรือโรคมะเร็งได้อีกด้วย  

  • เวลาที่ดวงตาของมนุษย์หมาป่าโดนเเสงเเฟลช เเสงจะกระทบกับตาทำให้เกิดเป็นเเสงลุกวาวบนดวงตา

  • ไม่สามารถเมากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เเต่เป็นที่เชื่อกันว่าถ้าดื่มเเล้วจะทำให้ความสามารถในการรักษาของมนุษย์หมาป่าเพิ่มขึ้น

  • มนุษย์หมาป่าสามารถควบคุมความสามารถในการรักษาได้ในระดับหนึ่งขณะที่ยังมีสติอยู่

จุดอ่อน

  • Wolfbane ฤทธิ์ของวูลฟ์เบนอยู่ที่เเต่ละชนิด เเละปริมาณ มันสามารถทำให้มนุษย์หมาป่า เห็นภาพหลอน ทำให้หมดสติ หรือถ้าใช้ในปริมมาณเยอะอาจจะฆ่ามนุษย์หมาป่าได้

  • Moutain Ash เมื่อโปรยผงเป็นเเนวเส้นตรงตัวผงจะทำให้เกิดเป็นกำเเพงกั้น ที่สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติไม่สามารถข้ามไปได้

  • Lunar Eclipse พลังของมนุษย์หมาป่าจะอ่อนเเอลงเมื่อเกิดคืนจันทรุปราคา

  • Mistletoe ต้นมิสเซิลโทเป็นเหมือนยาพิษต่อมนุษย์หมาป่า เเละอาจจะทำให้ตายได้ถ้าใช้ในปริมาณเยอะ

  • Full moon ถ้ามนุษย์หมาป่าขาดประสบการ์ณหรือพึ่งจะเป็นหมาป่ามาได้ไม่นาน จะเป็นอันตรายมาก พวกเขาจะสูญเสียการควบคุมเเละอาจจะฆ่าคนตายได้ มนุษย์หมาป่าที่เกิดจากการกัดจะควบคุมยากยิ่งกว่า

  • Hecatolite หรือ Moonstone สามารถควบคุมผลกระทบที่เกิดจากพระจันทร์เต็มดวงได้

  • รอยกัด รอยขีดข่วย เเละบาดเเผลจะรักษาได้ช้า ถ้ารอยนั้นเกิดจากอัลฟ่า

  • การใช้กระเเสไฟฟ้ามาจี้ตัวมนุษย์หมาป่าจะทำให้พลังอ่อนเเอลง

ประเถทของมนุษย์หมาป่า

มนุษย์หมาป่ามี 3 ประเถทดังนี้

  1. โอเมก้า หรือ ‘Lone wolf’ (มนุษย์หมาป่าที่โดดเดี่ยว) อยู่โดยไม่มีฝูงเเละอัลฟ่า มีพลังเหมือนข้อมูลด้านบนที่กล่าวมา เเต่พลังจะอ่อนเเอกว่าตัวอื่นๆ เพราะไม่มีฝูง มนุษย์หมาป่าสามารถกลายเป็นโอเมก้าได้ต่อเมื่อ พวกเขาเลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียว หรือ โดนไล่ออกของฝูง

  2. เบต้า คือสมาชิก เป็นส่วนหนึ่งของฝูง พวกเขาจะเเข็งเเกร่งมากกว่าโอเมก้าพลังของเบต้าอยู่ในระดับทั่วไป

  3. อัลฟ่า คือหัวหน้าของฝูงมนุุษย์หมาป่า เป็นประเถทของสายพันธุ์หมาป่าที่เเข็งเเกร่งที่สุด มีพละกำลังมากที่สุด

การกลายมาเป็นอัลฟ่า

  • เบต้าหรือโอเมก้าสามารถเป็นอัลฟ่าได้โดยฆ่าอัลฟ่า

  • เบต้าหรือโอเมก้าสามารถเป็นอัลฟ่าผ่านความเเข็งเเกร่ง เป็นได้โดยไม่ต้องฆ่าอัลฟ่าจะเรียกว่า Ture Alphas เเละหายากมาก

สีตา

สีตาของมนุษย์หมาป่าเวลากลายร่างสีจะเรืองเเสงในที่มืด

  • อัลฟ่ามีตาสีเเดง

  • เบต้ามีตาสีเหลือง

  • โอเมก้ามีตาสีฟ้า

เพิ่มเติม : เบต้าบางตัวจะมีตาสีฟ้า เกิดจากการสูญเสียหรือผิดหวังจากความรัก

ฝูง

มนุษย์หมาป่าเป็นสิ่งมีชีวิตทางสังคม ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นฝูง

  • ฝูงหมาป่าประกอบด้วยอัลฟ่าหนึ่งคน(ชายหรือหญิง) และเหล่าเบต้าในฝูง

  • อัลฟ่าเป็นผู้นำและเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด มีฝูงคอยตาม

  • มนุษย์หมาป่าจะแข็งแรงและมีพลังมากขึ้นเมื่อพวกเขาเข้าร่วมฝูง

  • มนุษย์หมาป่าที่จะเข้าร่วมฝูงได้ด้วยความสมัครใจเท่านั้น

*ทั้งนี้ทั้งนั้นสายพันธุ์อื่นก็สามารถเข้าร่วมฝูงได้ ‘ทุกสายพันธุ์’*

 

Hybrid | ลูกผสม

ไฮบริด (ลูกผสม) เกิดมาจากเเวมไพร์เเละมนุษย์หมาป่าสมสู่กัน ทำให้เกิดสายพันธ์ุใหม่ พวกเขาเเข็งเเกร่งพอๆกับมนุษย์หมาป่า และดื่มเลือดอย่างแวมไพร์ ลูกผสมพวกนี้มักไม่พบเท่าไหร่เนื่องจากทั้งสองเผ่าพันธ์ุไม่ค่อยจะลงรอยกัน

  • เลือดลูกผสมสามารถรักษาเเวมไพร์ที่ถูกมนุษย์หมาป่ากัดได้

  • ในคืนพระจันทร์เต็มดวงจะไม่มีผลต่อพวกลูกผสม ไม่สามารถกลายร่างในวันนั้นได้ แต่ความสามารถทุกอย่างของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น (ความสามารถคล้ายกับมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์)

  • มีความแข็งแรงมากกว่ามนุษย์หมาป่า และอายุยืนยาวพอๆกับพวกแวมไพร์

  • ไม่สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นแวมไพร์ได้

Wizards-Witch | พ่อมด-แม่มด

  • ไม่สามารถถูกสะกดจิตจากเเวมไพร์ได้

  • ร่างกายเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง

  • มีเวทย์มนต์ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด มีมากน้อยไม่เท่ากัน

  • มานาสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามอายุและการฝึกฝน จำนวนมานานั้นจะหมดไปตามความใหญ่และความรุนแรงในเวทมนตร์นั้นๆ

  • ต้องเลือกนามสกุลที่จะใช้โดยมีนามสกุล เบนเน็ตต์ ,ซาร์สการ์ด เเละวอร์เรน อ่านประวัติเเต่ละตระกูลได้ ที่นี่

 

ประวัติแม่มด-พ่อมด

     เชื่อว่าทุกท่านคงรู้จักแม่มดกันดี ภาพลักษณ์ของแม่มดที่ติดตาเรา มักเป็นหญิงแก่ แต่งกายด้วยชุดดำ มีความน่ากลัวและลี้ลับอยู่ในตัวเอง สามารถใช้เวทย์มนตร์คาถา ขี่ไม้กวาดเหาะไปมาได้ แม่มดมีแต่ผู้หญิงไม่มีผู้ชายหรือ มีเหมือนกัน พวกนี้เราจะเรียกว่าพ่อมดหรือ wizard ตัวอย่างของ wizard ที่รู้จักกันดีก็คือ เมอร์ลิน พ่อมดเฒ่าที่ปรึกษาของพระเจ้าอาร์เธอนั่นเอง

     คำว่า ‘Witch’ หรือแม่มดแผลงมาจากคำว่า ‘wit’ ในภาษาแองโกลแซกซอน หมายถึง To know หรือหยั่งรู้ - ต้องการรู้ ดังนั้น แม่มดจึงหมายถึงพวกที่ต้องการศึกษาหาความรู้ (ในศาสตร์ลึกลับเหนือธรรมชาติ) อาจจะด้วยแนวทางที่มีคุณธรรมหรือชั่วร้ายก็ได้ จะว่าไป แม่มดก็เหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่เอาแต่สนใจค้นคว้าทดลองเพื่อหาความรู้โดยไม่เลือกวิธี และไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถึงเป็นแม่มดก็ยังต้องกินข้าวเหมือนกัน แม่มดเองต้องทำมาหากินเหมือนกับคนทั่วไป รายได้ของแม่มดส่วนใหญ่มาจากค่าตอบแทนในการทำพิธีไสยศาสตร์ และการขายเครื่องรางของขลัง โดยส่วนใหญ่จะไม่คำนึงว่าใครจะเดือดร้อนจากการกระทำนี้บ้าง เเต่ปัจจุบันเเม่มดไม่ได้เป็นที่เชื่อถือจากสังคมส่วนใหญ่เเล้ว เเต่พวกเขายังเเฝงตัวเเละใช้เวทย์มนต์เเบบลับๆ

Banshee | เบนชี

*เฉพาะเพศหญิงเท่านั้น*

  • เมื่อเวลามีคนกำลังจะตาย เบนชีจะกรีดร้องออกมาเพราะเสียงเเละภาพหลอน และเบนชีไม่สามารถควบคุมพลังได้

  • เบนชีสามารถได้ยินเสียงในหัวของพวกเธอบ่อยครั้ง บางครั้งจิตใต้สำนึกนำพาไปสู่การฆาตกรรม หรือบางครั้งพวกเธอจะเขียนหรือวาดตามเสียงจิตใต้สำนึกในหัวบอก

  • เบนชี จะไม่มีลักษณะทางกายภาพเป็นเหมือนสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่จะเหมือนมนุษย์ เบนชีนั้นมีความสัมพันธ์บางอย่างกับสิ่งเหนือธรรมชาติ เเต่ไม่ใช่โดนควบคุมจากกสิ่งเหนือธรรมชาติ

  • เบนชีสามารถข้าม ผง Moutain Ash ไปได้ (ผงดำๆที่เหมือนเป็นตัวกั้นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติบางบ้านใช้ผสมลงไปในปูนก่อนสร้างบ้านด้วย) ซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติใดๆข้ามผงนั้นไปได้เลย

  • เสียงกรีดร้องของเบนชีหมายถึงจุดจบ เธอสามารถรับรู้ถึงเสียงได้เมื่อเธอเพ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้นๆเท่านั้น ซึ่งนั้นทำให้ชัดเจนว่าเธอกำลังเกี่ยวข้องกับสิ่งเหนือธรรมชาติบางอย่างอยู่ มันคือเสียงกระซิบของเบนชีตัวอื่น

  • ส่วนมากพวกเบนชีจะเป็นตั้งแต่กำเนิด สืบทอดทางสายเลือด

KITSUNE | คิทซึเนะ

    คิทซึเนะมักจะมีเชื้อชาติจากทางแถบเอเชียตามตำนาน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย

ออร่าคิทซึเนะ

ในภาพถ่ายดิจิตอลและการมองเห็นด้วยตาของมนุษย์หมาป่า พวกคิทซึเนะจะมีออร่าเหมือนเปลวไฟที่โดดเด่นออกมา มักจะมีรูปร่างเหมือนสุนัขจิ้งจอกที่มีหูแหลมและปากทรงกระบอกครอบคลุมตัวอยู่

ดวงตา

    เมื่อคิทซึเนะใช้ความสามารถ จะมีสีส้มเรืองแสงปรากฎอยู่ในตา การเปลี่ยนสีนี้เป็นการบ่งบอกถึงความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างของคิทซึเนะเท่านั้น

  • ดวงตาของคิทซึเนะจะเปลี่ยนไปเมื่อดูดซับธาตุของตัวเองหรือบางครั้งอยู่ในระหว่างการต่อสู้

  • เมื่อคิทซึเนะรักษาเยียวยาตัวเอง

  • บางครั้งดวงตาจะเรืองแสงเมื่อเรียกใช้หางของตัวเอง

ชนิดของคิทซึเนะ

มีคิทซึเนะอยู่ 13 ชนิด ภายในจักรวาลของทีนวูล์ฟ แต่เราจะยกมาแค่ 5 ชนิดหรือ 5 ธาตุนั้นเอง เช่น ท้องฟ้า = ลม, ทะเล = น้ำ, ป่า = ดิน, วิญญาณ = ไฟ และ สายฟ้า = ไฟฟ้า(*เป็นชนิดที่หายาก)

ความสามารถ

คิทซึเนะมีความสามารถดูดซัพพลังงานตามธาตุต่างๆของตนได้

  • ความเร็ว  = สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วตามธรรมชาติ คล้ายๆกับมนุษย์หมาป่า

  • การรักษา = สามารถรักษาบาดแผลของตัวเองได้แต่ไม่เร็วเท่ามนุษย์หมาป่า

  • อายุยืนยาว = คิทซึเนะนั้นมีอายุที่ยืนยาวกว่ามนุษย์ เมื่อพวกเขาอายุครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมา 1 หาง ทำให้ความสามารถแก่งกล้าขึ้น

จุดอ่อน

  • คิทซึเนะไม่สามารถผ่าน *Mountain Ash ได้

  • Wolfbane ฤทธิ์ของวูลฟ์เบนอยู่ที่เเต่ละชนิด เเละปริมาณ มันสามารถทำให้คิทซึเนะ เห็นภาพหลอน ทำให้หมดสติ หรือถ้าใช้ในปริมมาณเยอะอาจจะฆ่าคิทซึเนะได้เช่นกัน *คล้ายๆกับมนุษย์หมาป่า*

*ผงสมุนไพรชนิดนึงที่พอโปรยเป็นทางเเล้วจะทำให้สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติข้ามผ่านไม่ได้

หาง

ส่วนมากคิทซึเนะจะใช้หางของตัวเองเป็นอาวุธ หรือ อาวุธที่พวกเขาใช้นั้นแปลงมาจากหางของตนนั้นเอง อายุของหางยังหมายถึงระดับพลังของตน พวกที่อายุยืนมากจะมีหางเยอะขึ้นและพลังยังแก่กล้าขึ้นอีก สูงสุดอยู่ที่ 9 หาง การใช้พลังของตนอาจจะทำให้เสียหางของตัวเองไปได้

ตำนาน

      ปีศาจจิ้งจอก หรือ คิตซึเนะ สามารถพบได้ตามแถบตะวันออกของเอเชีย ตามความเชื่อแล้วปีศาจจิ้งจอก เป็นจิ้งจอกที่มีพลังเวทย์ มีทั้งพวกที่จัดว่าศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นข้ารับใช้ของเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งการเพาะปลูก และพวกที่จัดว่าเป็นผีร้าย ปีศาจจิ้งจอก มีความเชี่ยวชาญในมนต์มายา และวิชาแปลงกาย ซึ่งบ่อยครั้งที่มักจะแปลงกายเป็นมนุษย์ เชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกที่อายุยืน และมีตบะแก่กล้ามากพอ จะสามารถกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกได้ เมื่อปีศาจจิ้งจอกอยู่จนครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหาง และมีพลังแข็งแกร่งขึ้น และหากมีหางครบเก้าหางเมื่อไหร่ จะมีพลังมหาศาลและชาญฉลาดอย่างยิ่ง

bottom of page